วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2563

เรื่องน่ารู้ โควิด 19

          ด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มีแนวโน้มการแพร่ระบาดที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกัน และลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดเข้าสู่หมู่บ้าน/ชุมนุม ตลอดจนเพื่อป้องกันกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ง่ายต่อการติดเชื้อที่อยู่ในหมู่บ้าน/ชุมชน จึงขอให้จังหวัดแจ้งอำเภอเพื่อแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และแจ้งเทศบาล ดำเนินการในการค้นหาและเฝ้าระวังคนในพื้นที่ ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ทุกแห่งในอำเภอ ดังนี้
1. มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อเข้าสู่หมู่บ้าน/ชุมชน 1.1 การคัดกรองผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยง ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน บูรณาการความร่วมมือของบุคลากรในหมู่บ้าน/ชุมชน ทุกภาคส่วน ได้แก่ ข้าราชการ สมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบล คณะกรรมการหมู่บ้าน อสม. อปพร. ฯลฯ ร่วมกันค้นหาและคัดกรองว่ามีคนในหมู่บ้านที่เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยง เข้ามาพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน/ชุมชน หรือไม่ดังนี้
(1) ผู้ที่เดินทางกลับจากกรุงเทพมหานคร จากต่างประเทศ จากประเทศเพื่อนบ้าน หรือมีการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดที่มีคนแออัดเบียดเสียด ได้แก่ สนามมวย สนามกีฬา สนามม้า สนามชนโค สนามชนไก่ สถานบันเทิง หรือการไปร่วมกิจกรรมที่มีคนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ฯลฯ ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2563 เป็นต้นมา
(2) ผู้ที่อยู่ในระยะใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 หรือไปร่วมอยู่ในสถานที่ที่ผู้ป่วยโควิด-19ไปปรากฎตัว
1.2 การปฏิบัติในกรณีที่หมู่บ้าน/ชุมชนใดมีผู้เข้าข่ายตามข้อ 1.1 ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จัดทำบัญชีรายชื่อตามสิ่งที่ส่งมาด้วย เพื่อเฝ้าติดตามสังเกตอาการเป็นระยะเวลา 14 วัน นับแต่วันที่ผู้นั้นเดินทางไปยังสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด และให้ขอความร่วมมือผู้นั้นให้งดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ นอกหมู่บ้าน/ชุมชนไว้ก่อนหรือพักอาศัยอยู่แต่ในบ้านเรือนเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน และขอให้รายงานข้อมูลดังกล่าวให้เทศบาล  และองค์การบริหารส่วนตำบล เพื่อติดตาม และเฝ้าระวัง และให้ส่งข้อมูลให้อำเภอทราบเพื่อบันทึกข้อมูลเข้าระบบรายงาน
2. มาตรการเฝ้าระวังโรคติดต่อภายในหมู่บ้าน/ชุมชน 2.1 การแจ้งเตือนราษฎรในหมู่บ้าน ในกำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ในฐานะเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ แจ้งเจ้าบ้าน หรือ ผู้ดูแลบ้าน ให้ปฏิบัติ ตามมาตรา 31(1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ว่า กรณีมีผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยเป็นโรคติดเชื้ออยู่ในบ้านให้รีบแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู่ใหญ่บ้าน ในฐานะเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อโดยทันที และให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทราบ
2.2 กรณีบุคคลที่เดินทางกลับจากกรุงเทพฯ จากต่างประเทศ จากประเทศเพื่อนบ้าน หรือมีการเดินทางไปยังสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดที่มีคนแออัดเบียดเสียดตามข้อ 1.1 (1) มีอาการป่วย ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทราบทันที เพื่อเข้ารับการรักษาและประเมินอาการว่าเข้าข่ายสงสัยว่าจะติดเชื้อโควิด-19หรือไม่ หากเข้าข่ายสงสัยให้ดำเนินการตามมาตรการที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติกำหนด
2.3 กรณีบุคคลที่เป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 หรือไปร่วมอยู่ในสถานที่เสี่ยงที่มีผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19ไปปรากฎ ตามข้อ 1.1 (2) ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านรีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทราบทันที เพื่อดำเนินการตามมาตรการคัดกรอง คัดแยก กักกัน หรือคุมไว้สังเกต ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติกำหนด
2.4 กรณีมีคนในหมูบ้าน/ชุมชน ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ดำเนินการกับผู้ที่อยู่ในระยะใกล้ชิดกับผู้ป่วยตามแนวทางในข้อ 2.3 และให้แจ้งเทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนตำบลเข้าไปดำเนินการทำความสะอาดฆ่าเชื้อพื้นที่ที่ผู้ติดเชื้อไปทำกิจกรรมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อโดยเร็ว
3. การป้องกันและเฝ้าระวังกลุ่มผู้สูงอายุในหมู่บ้าน/ชุมชน ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ให้คำแนะนำแก่ผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรัง ในหมู่บ้าน/ชุมชน ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ได้ง่าย ให้หลีกเลี่ยงการพบปะ และสัมผัสกับบุคคลที่เดินทางกลับจากกรุงเทพฯ จากต่างประเทศ จากประเทศเพื่อนบ้าน หรือมีการเดินทางไปยังสถานที่เสี่ยง ตามข้อ 1.1 (1) และบุคคลที่เป็นผู้ที่อยู่ในระยะใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส โควิด-19 หรือไปร่วมอยู่ในสถานที่ที่ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปปรากฎตัวตามข้อ 1.1 (2) ที่อยู่ในช่วงระยะเวลาเฝ้าสังเกตอาการ 14 วัน รวมทั้งงดกิจกรรมนอกบ้านและงดการไปในที่ชุมชน
4. ในกรณีของชุมชนในเขตเทศบาลที่ไม่มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้นายอำเภอแจ้งและประสานงานกับเทศบาลให้แจ้งประธานกรรมการชุมชน และคณะกรรมการชุมชน ดำเนินการตามข้อ 1-3 เช่นเดียวกัน
5. ในกรณีที่หมู่บ้าน/ชุมชนใดปรากฎว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อ โควิด-19 และผู้ว่าราชการจังหวัดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดได้พิจารณาใช้อำนาจตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อแห่งชาติ ปี 2558 ในการปิดการเข้า-ออกหมู่บ้าน/ชุมชน นั้น ไว้เป็นการชั่วคราวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อไปยังสถานที่ต่างๆ หรือดำเนินการอื่นใด ให้รายงานกระทรวงมหาดไทยทราบทุกครั้ง